พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [12. สัตตสติก ขันธกะ] 2. ทุติยภาณวาร
ท่านพระเรวตะประกาศว่า ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า เรื่องที่ 2 นี้
สงฆ์วินิจฉัยแล้วว่า เรื่องนี้นอกธรรม นอกวินัย เลี่ยงสัตถุศาสน์ ผมขอจับสลาก
ที่ 2 นี้ (2)
ท่านพระเรวตะถามว่า ท่านผู้เจริญ คามันตรกัปปะควรหรือ
ท่านพระสัพพกามีย้อนถามว่า ท่าน คามันตรกัปปะนั้นคืออะไร
ท่านพระเรวตะตอบว่า ท่านผู้เจริญ ภิกษุฉันเสร็จแล้ว ห้ามภัตตาหารแล้ว
คิดว่า จะเข้าละแวกหมู่บ้าน ในบัดนี้ แล้วฉันโภชนะที่ไม่เป็นเดน ควรหรือ
ท่านพระสัพพกามีตอบว่า ท่าน ไม่ควร
ท่านพระเรวตะถามว่า พระผู้มีพระภาคทรงห้ามไว้ ณ ที่ไหน
ท่านพระสัพพกามีตอบว่า ณ กรุงสาวัตถี ปรากฏในสุตตวิภังค์
ท่านพระเรวตะถามว่า ต้องอาบัติอะไร
ท่านพระสัพพกามีตอบว่า ต้องปาจิตตีย์ เพราะฉันโภชนะที่ไม่เป็นเดน
ท่านพระเรวตะประกาศว่า ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า เรื่องที่ 3 นี้
สงฆ์วินิจฉัยแล้วว่า เรื่องนี้นอกธรรม นอกวินัย เลี่ยงสัตถุศาสน์ ผมขอจับสลาก
ที่ 3 นี้ (3)
ท่านพระเรวตะถามว่า ท่านผู้เจริญ อาวาสกัปปะควรหรือ
ท่านพระสัพพกามีย้อนถามว่า ท่าน อาวาสกัปปะนั้นคืออะไร
ท่านพระเรวตะตอบว่า ท่านผู้เจริญ อาวาสหลายแห่งที่มีสีมาเดียวกัน จะแยก
กันทำอุโบสถ ควรหรือ
ท่านพระสัพพกามีตอบว่า ท่าน ไม่ควร
ท่านพระเรวตะถามว่า พระผู้มีพระภาคทรงห้ามไว้ที่ไหน
ท่านพระสัพพกามีตอบว่า กรุงราชคฤห์ ปรากฏในอุโบสถสังยุต
ท่านพระเรวตะถามว่า ต้องอาบัติอะไร
ท่านพระสัพพกามีตอบว่า ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะล่วงพระวินัย